Bangkok @ 00:32 BKKLT
.
.
On The Road กำลังจะเปิดตัวฉายในอเมริกา ในวันที่ 21 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือว่า ช้ามาก เพราะประเทศอื่นๆได้ดูกันไปเกือบค่อนโลกแล้ว เริ่มจากเปิดตัว Premiere ที่ Cannes เมื่อปลายเดือน May หลังจากนั้น ก็เข้าฉายทั่วฝรั่งเศสในสัปดาห์ถัดมา และในยุโรปหลายประเทศ ฉันเองไปนอนตากดาวดู หนังกางแปลง เรื่องนี้ ที่ Somerset Film Festival ที่ลอนดอน เมื่อเดือนสิงหาคม (ย้อนหลังกลับไปดูรูปกันได้) จากนั้น OTR ก็ไปเปิดตัวที่ TIFF Toronto, Canada และต่อมาเข้าฉายที่ออสเตรเลีย และเอเชีย รวมถึงเมืองไทยในเดือนกันยายน จึงถือว่าเราโชคดีที่ได้ดูก่อนแฟนๆชาวอเมริกันอยู่หลายเดือน
และในวันที่ 8 และ 9 ธันวาคม ที่ผ่านมา Kristen , Walter และ Garrett ได้ไปร่วมงาน OTR Screening & Press Junket ที่ Santa Barbara Film Festival ซึ่งคาดว่า บทสัมภาษณ์ และคลิปสัมภาษณ์จะทยอยออกมาให้เราได้ทราบกันภายในสัปดาห์นี้ /ppompam
.
Kristen Stewart: I Need People in My Life Who Challenge Me
/
Kristen Stewart ให้สัมภาษณ์ กับ Rob Lowman จาก Los Angeles Daily News
การสัมภาษณ์มีขึ้นในวันเดียวกับวันที่ Kristen ไปร่วมรายการ ”The Tonight Show with Jay Leno” ตารางงานของเธอแน่นขนัดในช่วงนี้ เพื่อโปรโมท “The Twilight Saga: Breaking Dawn Part II.” แต่เธอก็ยังคงมีเวลาที่จะมานั่งคุยถึง ภาพยนตร์เรื่อง “On the Road” ซึ่งกำลังจะเปิดตัวฉายในวันที่ 21 นี้ ในอเมริกา
คงไม่ต้องเล่าเรื่องย่อกันแล้วกระมังว่า Kristen รับบทเป็น Marylou หรือ LuAnne ในชีวิตจริง สาวน้อยรักอิสระวัย 15 ซึ่งเป็นทั้งภรรยา และแฟนสาวของ Dean Moriarty หรือ Neal Cassady ในชีวิตจริง รับบทโดย Garrett Hedlund และตัวของ Jack Kerouac ผู้ประพันธ์เอง ตามเนื้อเรื่องใช้ชื่อ Sal Paradise แสดงโดย Sam Riley
เรื่องราวของ On The Road อยู่ในช่วง beat-generation หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จบสิ้นลงในปี 1945 ซึ่งเป็นยุคของการแสวงหาเสรีภาพ ของหนุ่มสาวชาวอเมริกัน
.
More Under The Cut : Los Angeles Daily News Via Cambio
Translation : ppompam
.
.
“เนื้อเรื่องบอกว่า เธอเป็นคนหัวสมัยใหม่” Kristen พูดถึงตัวละคร Marylou ซึ่งต่างจากบทบาทของ Bella อยู่อักโข “แต่เมื่อพูดกันแบบเฉพาะเจาะจงถึงบุคคลที่ใช้ชีวิตแบบนั้น เธอเป็นคนประเภทที่เข้าอกเข้าใจความรู้สึกของคนอื่นแบบไม่มีลิมิตเลยทีเดียว”
Kristen เซ็นต์สัญญารับเล่นเรื่อง On The Road ก่อนที่ ความบ้าคลั่งของ Twilight จะเกิดขึ้น และจากการพูดคุยกับ Walter Salles ผู้กำกับ เขาบอกว่าเป็นช่วงเวลาหลังจากที่เขาได้ดูเธอแสดงใน “Into the Wild.” เมื่อปี 2007
แต่ติดต้องใช้เวลานานในการหางบประมาณการลงทุนสร้าง แต่ Kristen ก็ยังไม่ปล่อยวาง เธอยังรอที่จะเล่นบทนี้ “ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหนฉันก็จะเล่นบทนี้ ต่อให้ต้องวิ่งส่งอาหารกันเองก็จะทำ” (Kristen ใช้คำว่า ฉันจะยอมทำงาน craft service ซึ่งหมายถึงแผนกที่จัดหาอาหารให้กับทางกองถ่าย/ ppompam)
ทั้งตัวผู้กำกับ และเพื่อนนักแสดงร่วมคือสิ่งที่ทำให้เธออยากแสดงเรื่องนี้ แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้เธอรับเล่นเรื่องนี้ก็เพราะ มันเป็นนวนิยายของ Kerouac ซึ่ง จุดประกายบางอย่างในตัวเธอ ตั้งแต่เธออายุ 14
“ฉันอ่านมันในช่วง จุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิต ‘a stage of life’ ที่ฉันตระหนัก ได้ว่าคุณสามารถเลือกที่จะใช้ชีวิตกับใครที่มาอยู่รอบๆตัวคุณ”
“คุณสามารถติดนิสัยของการเป็นอยู่ง่ายๆ เรื่อยๆ สบายๆ มีผู้คนที่น่ารักนิสัยดีอยู่รายล้อมคุณ แต่พวกเขาเหล่านั้นไม่ได้ทำให้คุณตื่นตัวหรือรู้สึกท้าทาย พวกเขาเหล่านั้นไม่ใช่คนประเภทที่ฉันอยากอยู่ด้วย ฉันต้องการคนที่เติมความยากกับชีวิตบ้างเล็กๆน้อยๆ เพื่อฉันจะได้หาคำตอบว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น หลังจากที่ฉันอ่านเรื่องนี้แล้ว ฉันคิดว่าฉันจำเป็นต้องหาคนที่ทำให้ฉันรู้สึกว่าฉันต้องไล่ตามเขา และฉันก็อยากให้มันเป็นเรื่องยากสักหน่อย ในการที่จะตามเขาให้ทัน ดังนั้นมันจึงไม่ยากเลยที่จะ เข้าใจในเรื่องนี้”
ด้วยตัวบุคคลแล้ว Kristen ได้แสดงให้เห็นอย่างชาญฉลาดว่า Marylou และตัวละครผู้หญิงคนอื่นๆนั้น ไม่ได้เป็นเพียงสิ่งบำบัดความใคร่ในหนังเท่านั้น
“สำหรับใครก็ตามที่คิดว่า Marylou เป็นแค่ผู้หญิงที่นอนกับใครก็ได้ นั่นมันเป็นมุมมองของคนที่เกลียดผู้หญิงซึ่งรุนแรงเกินไป.. มันยากมากจริงๆที่คุณจะสามารถมีชีวิตที่มีทุกอย่างคนบถ้วนและสมบูรณ์แบบ”
“On the Road” ถูกตีพิมพ์ในปี 1957, Kristen ชี้ให้เราเห็นว่าจริงๆแล้ว เรื่องนี้เกิดขึ้นในปลายทศวรรษ 1940 – 1950 และถูกเขียนออกมาในมุมมองของผู้ชาย
“นั่นคือเหตุผลว่าทำไมคุณถึงไม่รู้ว่าพวกเธอมีจุดหมายอยู่ที่ไหน และหัวใจของพวกเธอมุ่งไปตรงไหนกันแน่ ซึ่งมันอาจจะยากที่จะเข้าใจว่าพวกเธอนั้นแข็งแกร่งและสามารถยืนหยัดอยู่ได้โดยไม่ง้อพวกผู้ชาย” (Kristen หมายถึงผู้หญิงทุกคนในเรื่องนี้ ไม่เฉพาะแต่ Marulou ซึ่งถ้าคุณดูหนังแล้วจะเข้าใจว่าพวกเธอยืนหยัดได้ด้วยตัวเอง อย่างเช่น Marulou เอง หร่ือ Camille ที่รับบทโดย Kirsten Dunts /ppompam)
“ผู้คนถามฉันว่า ทำไมเนื้อเรื่องจึงเกี่ยวโยงสัมพันธ์กันแบบนี้ ถ้าเราดำเนินเรื่องไปที่จุดนี้ ณ เวลานั้นมันแตกต่างกันมาก ตอนนั้นมันยังเป็นความคิดแบบอนุรักษ์นิยมที่ยังโบราณอยู่ .. ฉันเองก็ไม่แน่ใจในเรื่องนี้เท่าไหร่นัก บางทีมันอาจจะเป็นอะไรที่เราเห็นเพียงเปลือกนอก แต่ฉันก็ไม่คิดว่าผู้คนจะเปลี่ยน แต่สถาณการณ์สิที่เปลี่ยน ความปรารถนาของมนุษย์ หรืออะไรต่อมิอะไรที่คุณต้องการในชีวิต มันจะเปลี่ยนไปอยู่ตลอดเวลา แต่ก็จะมีคนที่อยู่นอกกลุ่มซึ่งมองเข้ามา และไม่ได้รู้สึกเหมือนกับเรา แต่เมื่อวันหนึ่งที่พวกเขาพบกัน พวกเขาก็จะทำให้มันโอเค ที่จะเดินไปในทางที่แตกต่างกัน และมีอนาคตที่คาดหวังไว้ซึ่งแตกต่างกันไปในชีวิต”
Kristen บอกว่า .. ถึงแม้ว่า ในตอนแรกที่เธอตกลงรับแสดงเรื่องนี้ เธอจะมีอายุเท่ากับ Marylou ในเรื่อง แต่ตอนนั้นเธอก็ยังไม่พร้อมที่จะแสดง
“นี่คือสิ่งที่ไร้ความรับผิดชอบมากๆเลย ที่ฉันตกลงรับแสดง ก่อนที่ฉันจะคิดว่าฉันจะเล่นบทนั้นได้หรือเปล่า” แต่ก็ยังดีที่ หนังเรื่องนี้ใช้เวลานานพอดูกว่าที่จะได้เริ่มถ่ายทำ
“Marylou ไม่ได้เป็นคนที่ไม่กลัวอะไรเลย เพราะว่านั่นมันเป็นอะไรที่โง่มาก และเธอเองก็ไม่ใช่คนงี่เง่าแบบนั้นด้วย” Kristen บอก
“แต่เธอเป็นคนที่มีแรงกระตุ้น และไม่ยอมให้ความกลัวเข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิต สำหรับวัยรุ่นแล้วนั่นมันเป็นอะไรที่ยากมากที่จะผ่านมันไปได้ มันเป็นสิ่งที่ผู้คนส่วนใหญ่จะมีกันเมื่อพวกเขาอายุมากขึ้น”
ในช่วงที่เธอให้สัมภาษณ์นี้ เป็นเวลาเดียวกับที่ Kristen กำลังเริ่มโปรโมท Breaking Dawn Part 2 ถามว่า .. เธอรู้สึกโล่งใจไหมที่หนังทั้ง 5 ภาคนี้จบลง เธอตอบว่า .. ถ้าพูดแบบนั้นมันก็เกินความจริงไปหน่อย .. แต่เธอก็ยอมรับว่า เธอแบกความรับผิดชอบในบทบาทของ Bella มานานหลายปีมาก
“ปกติแล้วเวลาที่คุณดูตารางเวลา และมันก็จะประมาณอีก 2 สัปดาห์ก็จะถึงวันสำคัญ (ที่กำหนดไว้) แต่สำหรับฉันแล้ว รู้สึกเหมือนว่า มันอีก 3 ปีถึงจะถึงวันสำคัญวันนั้น ฉันจะคอยสงสัยอยากรู้ว่ามันจะเป็นไปในทางไหนอย่างไร ดังนั้นฉันจึงโล่งอกอย่างบอกไม่ถูกเลยล่ะ ที่เรื่องราวได้ถูกบอกเล่าออกไปเสียที”
Kristen ได้บอกกับเราอีกว่า ปรากฏการณ์ Twilight นั้น จะเป็นประสปการณ์เดียวที่เธอไม่อาจหาได้อีกแล้ว
“มันก็แปลกดีนะเวลาที่เรามองดูหรือสังเกตเห็นอะไรสักอย่างที่คุณแคร์มากๆจริงๆ และมันก็มีผลต่อผู้คนอีกมากมายด้วยเช่นกัน มันเป็นสิ่งที่เพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ เป็นพลังที่จุดประกายจนลุกเป็นไฟได้เลยล่ะ และพลังนี้แหละที่ทำให้คุณก้าวต่อไป”
“แต่มันก็ยังมีพลังอีกมากมายที่คุณจะรับมันเข้ามาอีก ถ้าคุณไม่ได้เป็นคนส่วนใหญ่ที่อยู่ด้านนอกนั่นอยู่แล้ว ซึ่งมันจะทำให้คุณรู้สึกท่วมท้น แต่ในขณะเดียวกัน คุณก็ไม่สามารถที่จะเริ่มก่อกำแพงปิดกั้นมันไว้ได้… และด้วยประสปการณ์ทั้งหมด ได้ทำให้ฉันมองเห็นเหตุผลว่าฉันไม่ต้องการกำแพงอะไรใดๆเลย เพราะฉันเองก็อยากเห็นด้านนอกนั้นเช่นกัน”
ในตอนนี้.. บทบาทใดที่ Kristen อยากแสดงต่อไปในอนาคต เธอยังไม่ได้คิดวางแผนอะไรเลย
“ถือว่าโชคดีมากนะ ถ้าคุณได้ค้นพบว่าอะไรที่มันท้าทายคุณจริงๆ และคุณได้เริ่มทำมันตั้งแต่อายุยังน้อย ผู้คนส่วนใหญ่ใช้เวลาเป็นปีๆ เพื่อพยายามค้นหามันและพวกเขาก็ไม่เคยได้ทำมัน”
“ฉันไม่รู้หรอกว่าฉันอยากทำอะไรจนกว่ามันจะมาโผล่อยู่ตรงหน้าแล้วนั่นแหละ .. ฉันชอบหนังฟอร์มใหญ่นะ และฉันก็ชอบหนังเล็กๆ ตราบใดที่มีคนที่มีตัวตนจริงๆ มาแสดงเป็นจุดศูนย์กลางของเรื่อง ฉันรู้สึกว่า ถ้าฉันรู้เรื่องราวพวกนั้น รู้เรื่องราวที่ฉันต้องการจะบอกเล่าก่อนที่ฉันจะได้เห็นมันในฐานะนักแสดง ฉันคงอยากจะกำกับเรื่องราวเหล่านั้น .. แต่ฉันก็ยังไปไม่ถึงจุดนั้นหรอกนะ”
.
/
Los Angeles Daily News Via Cambio
Translation : ppompam
..
.
/
เธอเป็นคนละเอียดอ่อน เข้าใจอะไรได้ลึกซึ้ง ซึ่งมันได้สะท้อนให้เห็นว่าเธอเป็นคนยังไง จริงๆแล้วเธอคือสาวที่มีความอ่อนโยน ความเข็มแข็งอยู่ในตัวและมีเป้าหมายที่ชัดเจน…..ถึงได้ทำให้ใครๆต่างหลงรักสาวน้อยมหัศจรรย์
ในอนาคตอาจมีผู้กำกับหนังคนเก่งก้อได้ใครจะไปรู้เนอะน้องคริส น้องคริสเป็นแสดงเป็นนักสู้อยู่เต็นสายเลือดเลยทีเดียว ก้าวเดินอย่างมั่นคงนะคะสาวน้อยคนสวย…ขอบคุณค่ะคุณแพม
ขอบคุณมากๆค่ะ นู๋คริสเธอเป็นนักแสดงที่แท้จริง และชอบทำอะไรที่ท้าทาย และมีความมุ่งมั่น สาวน้อยทีแสนหวานและฉลาด อยู่ในตัวเธอ
ความคิดลึกซึ้งจริงจัง มีสาระมากมาย น้องคริสของเราดูจริงจังและใส่ใจกับทุกสิ่งมากเลย เราแอบดีใจที่มีตาร็อบที่น่ารักคอยอยู่เคียงข้างเติมเต็มความสดใสอบอุ่นและรอยยิ้มให้น้องคริส หนังเรื่องนี้ดูจะโปรโมทกันยาวนานเหลือเกิน สิ้นปีนี้คงจบแล้วทุกอย่างปีหน้าจะได้เริ่มหนังเรื่องใหม่กันแล้ว ขอบคุณค่ะพี่แพม
คริสเข้าใจตัวตนของMarylouได้ดีที่สุดจริงๆค่า แล้วยังทุ่มเทให้กับตัวละครและหนังเรื่องนี้มากๆ เปรียบเสมือนเธอได้ไปใช้ชีวิตอยู่ในยุคนั้นเลย น่าชื่นชมกับความตั้งใจมากๆค่า ^^
ขอบคุณค่าพี่แพม
คริสตอบดีมากค่ะ และรักตัวละคร MaryLou มาก ชอบเรื่อง OTR มากเหมือนกันค่ะ ยังไงก็เป็นกำลังใจให้คริสในทุก ๆ ผลงาน จะติดตามชม forever ค่ะ ขอบคุณค่ะ
ในอนาคตจะมีผู้กำกับคนสวยมาทำหนังให้เราดู สู้ ๆ นะจ๊ะ
ความคิดเธอลึกซึ้งและละเอียดอ่อนจริงๆค่ะ แคร์ความรู้สึกของผู้คนที่ควรแคร์ มีความใส่ใจและรับผิดชอบในอาชีพของตน น่าชื่นชมจริงๆ เป็นกำลังใจและสนับสนุนคริสเสมอค่ะ ขอบคุณมากค่ะคุณแพม^_^
ลํ้าลึกๆ เชื่อจริงว่าคริสรักหนังสือเรื่องนี้
เพราะไม่ใช่แค่อ่านเพราะสนุก แต่เข้าถึงเนื้อเรื่อง
แล้วเป็นมุมมองชีวิต มุมมองโลกได้
เธอเป็นคนที่มองอะไรอย่างลึกซึิ้ง มีความละเอียดอ่อน แต่ก็เข้มแข็งมาก^^
ดูเธอรักบทประพันธ์และหนังเรื่องนี้มากๆ
หนังกำลังจะเข้าฉายใน us ขอให้ประสบความสำเร็จนะคะ
ขอบคุณค่าพี่แพม
ขอให้หนังประสบความสำเร็จมากๆค่ะ
และเฝ้ารอวันจะได้เห็นผู้กำกับหญิงคนเก่ง
ขอบคุณนะคะพี่แพม
คริสเป็นคนที่เข้าใจกับบทบาทตัวละครที่ตัวเองเล่นจริงๆค่่ะ อ่านแล้วรู้ว่าเธอแบบศึกษาและเค้าใจอารมณ์ของเมรี่ลูได้ดีจริงๆ ขอบคุณค่ะพี่แพม
ประทับใจมากค่ะ สาวคริสดูเต็มที่กับบทบาทนี้มากๆเลย
ขอให้หนังเรื่องนี้ประสบความสำเร็จนะคะ เชื่อว่าแฟนๆในUS ต่างก็คงรอคอยอย่างใจจดใจจ่อแล้วหละค่ะ
ขอบคุณพี่แพมนะคะ
ขอบคุณมากค่ะคุณแพม
น้องคริสเธอช่างลึกซึ้งกับทุกๆบทบาทที่เธอ
ได้รับ..นับถือสาวน้อยคนนี้จริงๆเก่งเกินตัว…วันข้างหน้าเราคงได้เห็นเธอ
ในอีกหลายๆบทบาทที่ท้าทายความสามารถ..ทั้งในฐานะนักแสดงและผู้กำกับหญิง…ขอให้เธอประสบความสำเร็จยิ่งๆขึ้นไป ^^
ความคิดของคริสดูเป็นผู้ใหญ่เลยนะค่ะ…เธอเกงเกินตัวจริงๆค่ะ..
ขอให้หนังประสบความสำเร็จนะค่ะ
ขอบคุณค่ะพี่แพม^^
ภูมิใจไปกับเธอด้วยเลยค่ะ ที่หนังเรื่อง OTR ได้ถูกสร้างและถ่ายทำเป็นภาพยนต์
เพราะรู้สึกว่าคริสจะชอบและรักหนังเรื่องเอามากๆเลยนะคะ
ขอบคุณพี่แพมมากค่ะ ที่แปลบทสัมภาษณ์ให้พวกเราได้รับรู้ค่ะ
มีอะไรมากมายอยู่ในความเป็นเธอ
น่าทึ่งมากๆสำหรับคนในวัยนี้และโด่งดังขนาดนี้
ขอให้ทุกก้าวในอนาคตเป็นไปด้วยความงดงามและมีความสุข
เป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ^^’
เป็นนักแสดงที่เข้าถึงบทบาทได้ดีมากเลยค่ะ ศึกษารายละเอียดต่างๆของตัวละครได้ลึกซึ้ง และถ่ายทอดออกมาได้ดี เป็นกำลังใจให้คริสเสมอนะคะ ขอบคุณมากนะคะพี่แพม ^^
เธอมีแนวคิด ที่ทำให้ตกหลุมรักได้เลย เธอฉลาด ลึกซึ้ง แข็งแกร่ง กล้าหาญ น่ารัก สุดบรรยาย รักคริสมากค่ะ
สาวน้อยทำให้เชื่อว่า การที่จะเป็นนักแสดงที่ดี ต้องรักในบทบาทที่ได้รับ รักและเข้าใจในตัวละคร เธอรักและทุ่มเทกับเรื่องนี้จังเลยค่ะ ยังไม่มีโอกาสได้ดูเลยค่ะ จะไปหามาดูให้ได้^^
ขอบคุณพี่แพมค่ะ:)
เป็นอีกบทสัมภาษณ์หนึ่ง ที่ทำให้ยิ่งภูมิใจและชื่นชมในตัวคริสเท่น
ขอบคุณค่ะพี่แพม
อ่านแล้วรู้สึกได้เลยค่ะว่าคริสรักหนังเรื่องนี้มากๆๆๆจริงๆ
ขอบคุณมากๆๆๆค่าพี่แพมม ^___^
คิดว่าหนังเรื่องนี้ออกฉายตอนเธออายุ 22 ปีเป็นผู้ใหญ่ขึ้นน่ะดีแล้ว
เพราะน่าจะสามารถรับมือได้ดีกับกระแสหนังที่ท้าทายความสามารถ
..ชักอยากจะดูอีกซะแล้วสิเรา ขอบคุณค่ะคุณแพม..